Posted on

“คิกุ” 菊 ดอกไม้ประจำชาติของคนญี่ปุ่น

ดอกไม้ประจำชาติญี่ปุ่น

สวัสดีค่ะ ถ้าหากฟ้าให้ลองพูดชื่อดอกไม้ที่มีความสำคัญกับประเทศญี่ปุ่นออกมาหนึ่งชื่อ คงจะไม่พ้นชื่อของเจ้าดอกไม้สีชมพูสวยอย่าง “ดอกซากุระ” ใช่ไหมล่ะคะ

แต่ทราบกันไหมเอ่ย...??

ว่าดอกซากุระที่ใคร ๆ ก็ต่างนึกถึงประเทศญี่ปุ่น หรือแม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กับชาวต่างชาติที่บินข้ามน้ำข้ามทะเล เพื่อมาชมดอกซากุระบาน หรืองานเทศกาลฮานามิของคนญี่ปุ่น จนใครหลาย ๆ คนอาจจะเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าดอกซากุระนี่แหละคือดอกไม้ประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น แต่แท้จริงแล้วดอกไม้ประจำชาติของประเทศญี่ปุ่นกลับไม่ใช่ดอกซากุระอย่างที่ใครหลาย ๆ คนเข้ากันกันนะคะ

ดอกไม้ประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น

คือ ดอกคิกุ (菊) หรือในประเทศไทยเรียกว่า ดอกเบญจมาศ เป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น 

โดยดอกเบญจมาศถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน เพื่อนำมาเป็นยารักษาโรคในสมัยนารา (หรือบางที่ก็ว่าเป็นสมัยเฮอัน) แต่ด้วยเอกลักษณ์ กลิ่นสีของตัวดอกเบญจมาศ ทำให้เจ้าดอกไม้ชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในราชวงศ์ญี่ปุ่น จนถูกนำมาเป็นตราสัญลักษณ์ของแผ่นดิน หรือเรียกอีกอย่างว่า พระราชลัญจกรดอกเบญจมาศ (菊花紋章 Kikkamonshou) นับตั้งแต่สมัยเมจิ จนมาถึงในสมัยปัจจุบัน

 

ดอกเบญจมาศ

ในสมัยเมจิได้มีการตั้งรัฐธรรมนูญว่าเอาไว้ในเรื่องข้อกำหนดของ “ตราประทับรูปดอกเบญจมาศ” ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศ โดยได้มีการกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน และสืบต่อกันมา 

  • ตราประทับรูปดอกเบญจมาศ 16 กลีบ และมีกลีบซ้อนอีก 16 กลีบจะใช้เป็นตราประทับประจำองค์สมเด็จพระจักรพรรดิเท่านั้น 
  • ตราประทับรูปดอกเบญจมาศ 14กลีบจะใช้เป็นตราประทับของเหล่าบรรดาเชื้อพระวงศ์
  • ตราประทับรูปดอกเบญจมาศ 16 ดอก ไม่มีกลีบซ้อนจะใช้เป็นตราประทับบนเอกสารสำคัญทางราชการอย่างหนังสือเดินทาง หนังสือคำสั่ง สถานที่สำคัญของประเทศที่เกี่ยวข้องกับทางราชวงศ์ ที่จะได้รับอนุญาตในการใช้ตราประทับรูปดอกเบญจมาศ
  
 

แล้วนอกจากนี้ ยังมีตำนานเกี่ยวกับดอกเบญจมาศของทางญี่ปุ่น ที่เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “คิกุโนะ” ชื่อคล้ายกับชื่อของดอกเบญจมาศในภาษาญี่ปุ่นเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ถ้าตอนนี้ใครกำลังนึกถึงตำนานของดอกทานตะวันอยู่ฟ้าแนะนำให้ลืมไปก่อนได้เลยค่ะ เพราะถ้าแม้ว่าชื่อของหญิงสาวจะคล้ายกับชื่อของดอกเบญจมาศ แต่เนื้อเรื่องไม่เหมือนกันนะคะ ถ้ายังไงทุกคนลองอ่านกันดูก่อนนะคะ ฟ้ารับรองว่าเนื้อเรื่องสนุกไม่แพ้ตำนานความรักของดอกไม้เรื่องอื่น ๆ เลยล่ะคะ

 

 

ตำนานดอกเบญจมาศ

กาลครั้งหนึ่ง มีสามีภรรยาที่รักกันมากอยู่คู่หนึ่ง ฝ่ายภรรยามีชื่อว่า “คิกุโนะ” ในทุกวันเธอต้องค่อยดูแลสามีที่ป่วยหนัก จนอยู่มาวันหนึ่งหมอได้มาดูอาการของสามีเธอและได้แจ้งข่าวร้ายว่าสามีของเธอจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น 

เมื่อคิกุโนะได้ฟังก็เกิดความเสียใจเป็นอย่างมาก จึงได้วิ่งไปอธิฐานกับพระในศาลเจ้าขอให้สามีของเธอมีชีวิตอยู่ได้ยืดยาวกว่านั้น

ด้วยความเสียใจ ทำให้คิกุโนะร้องไห้จนกระทั้งเผลอหลับไป และในขณะที่เธอหลับ คิกุโนะได้ฝันถึงคนแก่คนหนึ่ง ในความฝันคนแก่คนนั้นได้บอกกับเธอว่า 

“ถ้าหากอยากให้ชีวิตของสามียืนยาว ให้หาดอกไม้มาบูชาเทพเจ้า ยิ่งกลีบของดอกไม้มีมากเท่าไร ชีวิตของสามีของคิกุโนะก็จะยืนยาวเท่าจำนานของกลีบดอกไม้” 

และเมื่อคิกุโนะตื่นขึ้นมา เธอจึงออกตามหาดอกไม้ที่มีกลีบมาก ๆ แต่ไม่มีดอกไหนเลยที่มีจำนวนกลีบมากเท่าที่เธอต้องการ

คิกุโนะเลยตัดสินใจนำดอกไม้ที่มีกลีบเยอะที่สุดมากรีดกลีบดอกทีละกลีบ จนกลายเป็นฝอยยาวและมีกลีบดอกจนแทบนับไม่ถ้วน นำไปถวายเทพเจ้า 

และด้วยความตั้งใจจริงของคิกุโนะ เทพพระเจ้าจึงบันดาลให้สามีของเธอหายจากอาการป่วย และอยู่กับเธอไปจนแก่เฒ่า 

ดอกไม้ที่คุกิโนะทำขึ้นจึงถูกเรียกว่า “ดอกคิกุโนะ” หรือ “ดอกเบญจมาศ” ที่คนไทยเรารู้จักกันนั่นเองค่ะ